Room Database with ViewModel and Coroutines
เรื่องนี้จะอ้างอิงตาม Google Codelabs Coroutines and Room และจากคอนเซปต์ของ Database และ Coroutines ที่ผ่านมาแล้ว
หลังจากเราทำการสร้าง Database เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่การสร้าง ViewModel มาเรียกใช้ Database, ViewModelFactory มาเรียกใช้ ViewModel และ การเอา ViewModel ดังกล่าวโยงเข้ากันกับ Data Access Object (DAO) และใช้ DAO ในการ Query หรือทำ Transaction ต่าง ๆ
Pre-Programing
ตรวจสอบว่าได้ทำการ implement dependency ของ Coroutines ไว้แล้วยัง รวมถึง Dependencies อื่น ๆ ด้วย
implementation "org.jetbrains.kotlinx:kotlinx-coroutines-android:$coroutine_version"
ViewModel and Database Reference
-
สร้าง Reference ของ Activity หรือ Fragment นั้น ๆ (Get Application ออกมา)
var application = requireNotNull(this.activity).application
-
สร้างตัวแปรมา Reference Datasource ของเรา โดย
getInstant()
ของ Database ออกมา และ ดึง DAO ที่เชื่อมต่อกับ Database ออกมาval dataSource = sleepDatabase.getInstance(application).sleepDatabaseDao
-
เตรียมตัวแปรสำหรับ ViewModelFactory และ ส่งค่าพารามิเตอร์ให้กับมัน
val viewModelFactory = SleepTrackerViewModelFactory(dataSource,application)
-
เตรียม Reference สำหรับ ViewModel ที่เราจะใช้กับงานนี้
val sleepTrackerViewModel = ViewModelProviders.of(this,viewModelFactory).get(SleepTrackerViewModel::class.java)
Job, Scope and Dispatcher Preparing
จากที่ได้กล่าวไว้ในเรื่อง Coroutines ว่า จะมีส่วนที่สำคัญ 3 ส่วนคือ Job, Scope และ Dispatcher ขั้นตอนเริ่มแรกคือ การกำหนดสิ่งที่เราจะให้มันทำใน Coroutines หรือ Multithreading Scenario คืออะไร เมื่อเราต้องการเริ่มหรือหยุด Coroutines เราสามารถจัดการกับมันได้ผ่านตัวแปรตัวนี้
Initial Job and Cancle Function
การสร้าง Job นอกจากจะต้องสร้างเป็น field ซึ่งเป็นตัวแปรชนิด Job()
แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ Method สำหรับการ Cancle งานนี้
private var viewModelJob = Job()
Override Function onCleard()
ไว้ด้วย
override fun onCleared() {
super.onCleared()
viewModelJob.cancel()
}
Make UI Scope
สร้าง UI Scope สำหรับ Coroutines เพื่อให้ Coroutine รู้ว่าตัวมันต้องรันบน Thread ใด แล้วก็ต้องบอก Coroutine ด้วยว่าจะมี Job อะไร โดยพารามิเตอร์ของการสร้าง Scope คือ ใส่ Dispatcher และ Job ลงไป
private val uiScope = CoroutineScope(Dispatcher.Main + viewModelJob)
Lauching Your Scope
หลังจากตั้งค่าตัวแปรต่าง ๆ ครบแล้ว จากนั้นเราจะเริ่มเรียกใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลดยเริ่มจาก
LiveData Variable Declare
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ เราจะเก็บข้อมูลที่ได้มาจาก Database ในรูปของ LiveData โดยสามารถจัดอยู่ในแบบง่าย ๆ คือ MutableLiveData<>()
แต่มันจะสามารถแก้ไขได้ง่าย โดยสามารถเลี่ยงไปใช้ตัวแปรแบบ LiveData<>()
แทนก็ได้ และใช้ Backing Property ช่วย โดยในที่นี้จะใช้ MutableLiveData ธรรมดาก่อน
private var tonight = MutableLiveData<SleepNight?>()
Start Coroutines and LiveData
หลังจากเราได้ LiveData อันเป็นที่เก็บของข้อมูลที่เราต้องการดึงจากฐานข้อมูลแล้วนั้น เราก็จะเรียกค่าจาก Database เพื่อเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร LiveData นั้น ซึ่งในตรงนี้จะมีการทำงาน ที่ใช้หลัก Blocking ไม่ดีนัก ต้องใช้หลักของ Coroutines ดังนั้นตรงนี้ จะเป็นการ เรียกใช้ หรือ Implement ในส่วนของ Coroutines ด้วย
-
เรียกใช้ฟังก์ชันที่จะใช้เข้าถึง LiveData ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Coroutines ตังแต่ scope
init{}
หรือ Constructor ของ class เช่น เราจะเรียกให้ Coroutine ทำงานในฟังก์ชันinitializeTonight()
เราก็เรียกฟังก์ชันนี้ใน initinit{ initializeTonight() }
-
หลังจากนั้น เราก็ต้อง declare function ลงใน class นี้ โดยการเขียนฟังก์ชันที่จะให้มันทำงานใน Coroutines นั้นไม่เหือนกับฟังก์ชันธรรมดาทั่วไป เราจะต้องเอา Scope ที่เราเคยกำหนดไว้มาเป็นตัวเริ่ม กล่าวคือ LiveData Coroutine จะรันบน Scope เราก็ต้องบอก Scope ก่อน เพราะเราเริ่มคำลั่งตอน Init คือเริ่มต้นเริ่ม Class แต่จริง ๆ เรายังไม่ได้ต้องการให้มันเริ่มตอนนั้น เราจะให้เริ่มต้น uiScope ของเราพร้อม ไม่งั้นมันก็ไม่รู้
private fun initializeTonight(){ uiScope.launch{ tongiht.value = getTonightFromDatabase() } }
Put Data out form Database
เราได้เตรียมค่าที่จะใช้ในการเก็บข้อมูล ซึ่งเก็บอยู่ในรูปของ LiveData เรียบร้อยแล้ว คือ ให้ค่าของมันเป็น getTonightFromDatabase()
ซึ่งเรายังไม่ได้ Implement Function ดังกล่าว
-
Implement ฟังก์ชัน ในการจะ Implement นั้น ในการรันผ่าน Coroutines ซึ่งมันเป็นแบบ Asynchronous นั้น เราก็จะไม่สั่งฟังก์ชันให้ทำงานเป็นบล็อก ๆ แต่เราจะใช้หลักการของ Suspend Function แทน เพราะว่าถ้าหากไม่มีข้อมูล ไม่มีอะไรพร้อมให้มันทำงาน มันจะได้ไม่ต้องทำงาน
private suspend fun getTonightFromDatabase:SleepNight?{}
-
ให้ฟังก์ชันนั้นส่งค่าออกมา ซึ่งแน่นอนว่าคงจะไม่สามารถส่งออกแบบธรรมดาได้ มันต้องส่งแบบขึ้นกับสถานะการณ์ ในสถานการณ์ของ Database นี้ จัดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำบน I/O การ return แบบนี้เราจะใช้
return WithContext(){}
ในที่นี้ Context ของเราคือ Dispatchers.IO จะได้เป็นreturn withContext(Dispatchers.IO){ var night = database.getTonight() if (night?.endTimeMilli != night?.startTimeMilli) { night = null } night }
ท้ายที่สุดแล้ว เราจะได้หลักการคร่าว ๆ ของการทำงานของโปรแกรม แบบ Database + Coroutines ตามตัวอย่างที่ Google Codelabs ให้มาดังนี้
fun someWorkNeedsToBeDone {
uiScope.launch {
suspendFunction()
}
}
suspend fun suspendFunction() {
withContext(Dispatchers.IO) {
longrunningWork()
}
}
ขอบคุณโค้ดเฉลยจาก Google Codelabs Code of this if a copy from Google Codelabs Android Kotlin Fundamentals 06.2 Coroutines and Room